Tuesday, October 28, 2014

[Shopping] เปิดกระเป๋าดูของช้อปปิ้งจากเกาหลี - 20141022-26 Korean Trip



ไปเกาหลีช่วงวันที่ 22-26 ต.ค. ที่ผ่านมาค่ะ ก่อนจะเขียนเรื่องทริปทั้ง 5 วัน มาลัดคิวเปิดกระเป๋าช้อปปิ้งให้ดูก่อนดีกว่า เพราะทริปเรื่องยาว

ถ้านับเป็นจำนวนชิ้นก็ไม่ได้มากอะไรนะ (หรือเปล่า?) แต่ก็มีหลายชิ้นที่ราคาเลือดซิบๆ กันเลย ไปรอบนี้เหมือนไปดูว่าบ้านเมืองเค้าเป็นไง นั่งรถไฟไปพูซานด้วย เลยเอากระเป๋าใบเล็ก 24" ไป เอาไว้มีโอกาสอีก แม่จะเอาใบ 30" ไปขนของมาให้สะใจเลย คอยดูสิ >,,< 


New Balance 

มีน้องๆ บอกว่าที่เกาหลีถูกกว่าไทยเยอะ แน่นอนถูกกว่าในสิงคโปร์แน่นอน (เอ๋อยู่ สคป.นะ) ที่นี่คู่ละ 4-5 พันจ๊ะ ไปเห็นราคาประมาณ 3 พัน ตาลุกวาววิ๊บวั๊บ จัดมา 2 คู่เลยแล้วกันนะ ไหนๆ ก็ไหนๆ 

ชิ้นแรกที่ซื้อในทริปนี้ รุ่น 300 ราคา ₩99,000 ตอนแรกตั้งใจไปซื้อที่พูซานแล้วเปลี่ยนใส่เลย แต่ฝนตกพื้นแฉะ กลัวเลอะซะงั้น ฮ่าๆๆ นางก็แบกจากพูซานมาโซล ตอนเห็นปุ๊บ ตรงปรี่ไปหยิบปั๊บเลย ชอบรองเท้าที่ฐานไม่บานออก นี่แหล่ะใช่เลย




กระโดดข้ามมาที่ชิ้นสุดท้ายของทริปก่อน รุ่น 891 ราคา ₩109,000 มี 2 สี สีนี้+สีครีม ... คิดอยู่นาน เพราะเพิ่งซื้อสีฟ้า และสีครีมน่ารักมาก แต่กลัวจะเลอะง่ายไป เอาเหอะตัดใจ เอาสีเข้มเหอะนะ ขี้เกียจซักบ่อยๆ >~< มาซื้อที่ฮงแด ก่อนกลับไปเอากระเป๋า นางบ้าอ่ะแพ็คกระเป๋าเรียบร้อย ยังจะซื้ออีกจนต้องกลับไปแพ็ตใหม่หน้าที่พัก (ซึ่งเช็คเอาท์ไปแล้ว) อายเค้ามั้ย ไม่มีคำนั้น ฮ่าๆๆๆ 




CD เกาหลี

จะขาดที่รักของนูน่าได้ยังไง JYJ JUST US ₩20,300 & KIM JAE JOONG REPACKAGE ALBUM ₩20,000 หนักเอาการเลยล่ะ ต้องประคบประหงมอย่างดี บุด้วยผ้าขนหนูหนาๆ ... ของแจจุงมีซิงเกิ้ล+อัลบั้มเต็มอันแรกแล้ว ก็จะซื้อเก็บอีก ... นี่ถ้า JUST US ออกแพ็คเกจใหม่อีกก็จะซื้อเก็บนะ อิอิ




Innisfree 

ซื้อทั้งหมด 12 ชิ้น หมดไป ₩153,000 (ที่พูซาน) + ₩54,000 (Lotte Mart Seoul) + ₩7,200 (Donghwa Duty Free) นอกนั้นของแถมล้วนๆ 

พนง. ที่พูซานบอกว่าถ้าไม่เอา Tax Refund จะได้ของแถมจัดเต็มนะ นางหยิบมาให้ดูว่าแถมอะไรบ้าง แหน่ะมีล่อใจก่อน อ่ะเครๆๆๆๆ ไม่รีฟันก็ด่ะ แต่ที่ Lotte Mart ไม่แถมอะไรเลย แถมเคาน์เตอร์รีฟันก็ปิดแล้ว เศร้ามากอ่ะ ยังดีนะมีลด 10% ปลอบใจไปได้บ้าง 

1. Green Tea Set ₩55,000 มีโทนเนอร์ โลชั่น ซีรั่ม แถมครีมปริมาณรวมเท่าของจริง (ของฝากที่บ้าน)
2. Green Tea Seed Serum ₩22,000 เอามาเพิ่มอีกขวดให้ตัวเอง 
3. Super volcanic pore clay mask 100 ml ₩13,000 (2 กระปุกของฝาก) 200 ml ₩22,000 (1 กระปุกของตัวเอง) มาร์คปิดรูขุมขน
4. Eco Science Recover Spot Essence ₩33,000 เอสเซ้นซ์แต้มรอยดำ ให้ตัวเอง
5. Jeju volcanic liquid nose pack หลอดละ ₩6,000 - 10% = ₩5,400 (2 หลอด ของฝาก 1 ตัวเอง 1) มาร์คจมูกสำหรับผิวมัน+ช่วยขจัดสิวอุดตัน
6. Eco science eye mask คู่ละ ₩3,000 - 10% = ₩27,000 (10 คู่ ของฝาก+ตัวเอง)
7. Olive Real Moisture Hand Cream หลอดละ ₩6,000 - 10% = ₩5,400 (3 หลอด ของฝาก+ตัวเอง)
8. Ampoule Intense Cusion SPF34 PA++ ₩7,200 (ของตัวเอง)





กระเป๋าผ้าของแถมจาก Innisfree ด้วยจ๊ะ 
บสีเหลืองกลายเป็นถุงช้อปปิ้งในวันต่อมา สะดวกมาก 


Sulwhasoo 

ซื้อเฉพาะตัวที่ไม่มีในดิวตี้ฟรีไทย (เคยเล่าแล้วว่าช้อปดิวตี้ฟรีไทยได้อะไรมาบ้างใน Blog "[Beauty] ช้อปปิ้ง Sulwhasoo ในดิวตี้ฟรีไทย ใครว่าแพงกว่าไปเกาหลี") แต่ยังไงก็ยังบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี แฮ่ๆๆๆๆ ₩326,890 ซื้อที่ Donghwa Duty Free จ๊ะ จริงๆ คิดเป็น US$ แต่ขอจ่ายเป็นวอนแทน 

1. Gentle Cleansing Oil ₩34,797 (US$33)
2. Snowise EX White Ginseng Exfoliating Gel หลอดละ ₩48,506 (US$46)
3. Snowise EX Whitening Spot Serum ₩148,682 (US$141)
4. Lumitouch Foundation (Liquid) ₩46,397 (US$44) 




Etude 

หมดไป ₩40,062 (Donghwa) + ₩15,500 (มยองดง) ของตัวเองทั้งหมด อิอิ

1. Lash Perm All Shockcara แท่งละ ₩10,545 จัดมา 2
2. Collagen Eye Patch แพ็คละ ₩18,072 มี 10 คู่ 
2. Perfect Brow Kit ₩9,000 
3. Eyebrow brush ₩2,500 
4. Eye remover ขวดละ ₩4,000 พนง.บอกว่าถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะ ซื้อ 1 แถม 1 เลอค่ามากก เอาเลยดิ



Banila co. 

ไม่อยู่ในลิสต์ที่จะเสียตังค์ร้านนี้เลย เสียไป ₩46,000 บอกเลยว่าหลงมนต์เจ๊จีฮโย นางร่ายมนต์ส่งสายตาปิ๊งๆ อยู่หน้าร้าน ไม่เคยได้ยินแบรนด์นี้เลยนะ แต่แพ็คเกจน่ารักดี เอาน่ะลองสักหน่อย

1. Multi Ball Powder Tinted Seoul ₩28,000 แป้งไฮไลต์วิ้งๆ คือที่อยากได้เพราะกล่อง มีพัฟนุ่มๆ ให้ด้วย 
2. Brow Cake ₩18,000 ราคาแพงกว่า Etude เท่าตัว แต่อยากลอง เพราะมีครีมปัดขนคิ้วมาให้ด้วย (สีน้ำตาลช่องขวา)




Youk Shim Won 

กระเป๋าของแกตุงออมม่า (จากซี่รี่ย์ Fated to Love You) เป็นชิ้นที่เลอค่าที่สุดในทริปนี้ กระเป๋าสะพายข้าง ₩288,000 ลายนี้มีกระเป๋าแค่ทรงเดียวซึ่งชอบทรงนี้อยู่แล้ว ถึงจะรู้ว่าราคาบาดเจ็บสาหัสเลือดอาบทีเดียว แต่มันอยากได้นี่นา >//<




เสื้อผ้าของจุ๊กจิ๊ก 

เสื้อซื้อจากร้านแถวอีฮวาแด ₩39,000 มันไม่หนามาก ใส่ใน สคป. ได้ แต่แอบพลาดนะ ลืมต่อราคา (นิสัยเสียคือซื้อของไม่ค่อยต่อ) 

ยีนส์ตัวน้อย ซื้อแถว Express Bus Terminal ₩10,000 มีไซต์ใส่ได้ด้วย ดีใจ อิอิ ใส่ตัวนี้+เลคกิ้งวันกลับ




หมวกซื้อมาจากร้าน Tak Girl แถว Bukchon ใบละ ₩19,000 ของพี่สาวสีน้ำตาล ของตัวเองสีเหลือง




เป้ลายดอก ₩10,000 ใส่ laptop ได้ด้วยนะ ซื้อจากแถวอีฮวาแด สีเข้ากะ NB คู่ใหม่ดีเน๊อะ




ถุงเท้ามุ้งมิ้ง คู่ละ ₩1,000 ซื้อแถวอีฮวาแด อยากซื้อเยอะกว่านี้นะ แต่ตังค์จะหมดแล้วง่า ^^"




สเวตเตอร์ ₩15,000 ซื้อแถวฮงแด หลังจากดูพยากรณ์อากาศแล้วว่าจะอุ่นขึ้น ใส่สเวตเตอร์อย่างเดียว ไม่ต้องใส่โค้ชก็พอ ... ในรูปมันยับไปหน่อยนะ เพิ่งเอาออกจากเครื่องซักผ้าสดๆ ร้อนๆ




Lotte Mart

หมดไป ₩48,390 หิ้วได้แค่นี้ เดินมาทั้งวันจนจะเที่ยงคืนแล้ว แบกไม่ไหวแล้ว

1. หม้อ ₩5,800 งงล่ะสิ ซื้อหม้อทำไม ฮ่าๆๆๆ คือที่บ้านใน สคป. ใช้หม้อเกาหลีจ๊ะ น้องอีกคนไปซื้อมา พอดีมันไหม้ไปใบนึง เค้าเลยฝากซื้อใบใหม่
2. Brownie รสดั้งเดิม + วนิลลา กล่องละ ₩16,500 
3. Pepero White Cookie Special Edition Pack กล่องละ ₩9,790 อร่อยมากกกก ขอบอก







Sunday, October 19, 2014

[Dining] เฝอกินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ - Vietnamese Noodle Bars



Nam Nam Noodle Bar




การอยู่สิงคโปร์ บอกเลยว่าหาอาหารถูกปากยากมาก เพราะมีแต่มันๆ เลี่ยนๆ จนได้มากินเฝอ เออถูกใจมาก เพราะมีความเหมือนก๋วยเตี๋ยวไทยมากๆ เลย ตอนแรกๆ ก็หากินตาม food court อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง แต่ก็ดีกว่าก๋วยเตี๋ยวมันๆ แล้วก็มาเจอร้านนี้ Nam Nam Noodle Bar ชั้นใต้ดิน Raffles City พอดีไปต่อ MRT ที่สถานี City Hall คนแน่นเอี๊ยดไปไม่ได้ เลยเดินออกมาหาอะไรกิน ลองเดินเล่นๆ เจอร้านนี้เข้า ลองแล้วติดใจ กลายเป็นร้านประจำไปเลย ... คิดอะไรไม่ออก บอกกินเฝอเวียดนาม



โต๊ะส่วนใหญ่ เป็นแบบเก้าอี้บาร์สูงๆ มีโต๊ะเตี้ยเหมือนกันแต่สำหรับมา 2-4 คน


มุมประจำ นั่งหน้าบาร์ ดูพ่อครัวเพลินดี  
แต่บางทีเจอพ่อครัววัยรุ่น มัวแต่เล่นมือถือ กว่าจะทำได้ รอนานเลย


วันธรรมดาคิวยาวเหยียด แต่เอ๋ผกามาคนเดียว เลยได้ที่นั่งไวเสมอ คือตรงหน้าบาร์ แต่ถ้าวันหยุดคนน้อยหน่อยจ๊ะ เพราะตามออฟฟิศหยุดกัน ถ้าคนแน่นต้องยืนต่อคิว แล้วพอมีที่ว่าง พนักงานจะจดเบอร์โต๊ะให้เราบนใบสั่งอาหาร แต่ถ้าคนไม่แน่น เราเดินไปดูเลขโต๊ะเองได้เลย แล้วมาบอกเคาน์เตอร์จ่ายเงิน จ่ายก่อนกินนะ ร้านนี้ดีตรงไม่มี Service Charge และราคารวม GST (VAT) แล้ว ฉะนั้นอย่าไปจิกเค้ามากล่ะ เค้าไม่คิด Ser.Ch. แล้ว /*เกลียดนักพวกชอบจิก พนง.เสิร์ฟ*/ คือลูกค้าเยอะ เค้าบริการคุณแบบราชาไม่ได้หรอกนะ วันไหนคนเยอะ คิวยาวเหยียด แล้วเจอพวกคุณนาย วางกระเป๋าบนเก้าอี้ มา 2 นั่ง 4 ไรเงี้ย สงสาร พนง. ลูกค้ายืนต่อคิวหงุดหงิด จะไปบอกให้ลูกค้าคนอื่นเอากระเป๋าออกก็ไม่ได้ เอ๋ผกาไม่มีอะไรแบบนี้ ถ้านั่งบาร์ก็เอากระเป๋าห้อยตรงเข่าตัวเอง หรือห้องไม่ได้ ก็วางพื้นมันไปเลย







เมนูที่กินประจำคือ PHO Beef + Rice Noodles สลับๆ กัน บางวันก็ Beef Combination S$9.90 (เนื้อ+เครื่องใน+ลูกชิ้น) บางวันก็ Beef Steak Slices S$8.90 เนื้อที่นี่จะนุ่มมากๆ เพราะเค้าเสิร์ฟแบบ Medium Rare คือไม่ลวกมาให้เลย จะแปะเนื้อสดมาบนน้ำซุปร้อนๆ พอเราคลุกให้ทั่วก็สุกพอดี เนื้อจึงนุ่ม ไม่แข็งด้าน





ตอนแรกก็ตกใจนะ มาเนื้อแดงเชียว แต่คลุกในซุปร้อนๆ ก็ทำให้เนื้อไม่ด้าน นุ่มในปาก


ของกินเล่นก็มี ไปครั้งแรกลองสั่ง Crispy Fried Prawn & Pork Rolls S$4.90 ไส้อร่อยดี แต่ติดจะอมน้ำมันไปนิดนึงก็เลยเอาทิชชู่ซับ โอเคกินได้




PHO Beef Combination + Crispy Fried Prawn & Pork Rolls + Lotus Tea = S$17.40
     

แต่ที่ถูกใจมากที่สุดคือ Fresh southern rolls with prawn, fresh herbs, peanut sauce S$4.90 ป่อเปี๊ยะกุ้ง จิ้มซอสใส่ถั่ว ซอสถูกใจใช่เลย มีถั่ว+หอมเจียว อร่อยมากๆ 




ที่ร้านจะวางเครื่องปรุงเอาไว้ให้ อยากเติมอะไรเชิญเลย เอ๋ชอบเอาซอสพริก+ซอสซีฟู๊ด (Hoisin sauce) เพราะรวมกันจะได้รสเปรี้ยวๆ เค็มๆ เผ็ดนิดๆ คนชอบหวานไม่มีน้ำตาลให้นะ เพราะน้ำซุปหวานแล้ว ซึ่งเอ๋ผกาไม่กินหวาน ก็จะแอบเหยาะน้ำปลาอีกนิดนึง ถ้ารู้สึกว่าหวานไปนิ๊ด



Hoisin sauce คือขวดที่ 2 ต่อจากซอสพริก
 
อีกเมนูที่เห็นคนสั่งกันเยอะ แต่ผกายังไม่เคยสั่ง (คือรู้สึกว่าจะอิ่มจุกเกินไปสำหรับมื้อเย็น) คือ Banh Mi เบอร์เกอร์เวียดนาม ท่าทางจะรสจัด เพราะเห็นมีใส่พริกมาด้วย ราคาไม่แพงด้วย ชิ้นเบ้อเริ่มแค่ S$5.90-6.90





อ๊ะเสียดายรูปไม่ชัด จะให้ดูว่าพวกซอสต่างๆ ก็มีขาย วางไว้ในรถน่ารักเชียว


ส่วนใหญ่จะสั่ง Lotus Tea นะ แต่ถ้าเบื่อๆ ก็น้ำเปล่า ขวดจิ๋วกระทัดรัด



Location:  Raffles City, Wheelock Place, Suntec City, Plaza Singapura, Resorts World Sentosa

Website:  http://namnamnoodlebar.com.sg/


PHO Street








ร้านนี้ต้องบอกว่าเอาไว้กินแก้ขัด เพราะอยู่ในห้างใกล้บ้าน เนื้อแข็งกว่า ไม่นุ่มเหมือนร้านแรก แต่น้ำซุปอร่อยใช้ได้ค่ะ สาขา Bedok Mall ถ้าวันธรรมดาคนน้อยมาก แต่ถ้าเย็นวันศุกร์คนแน่นทุกโต๊ะจ๊ะ

ลองสั่งทุกเมนูเนื้อมาแล้ว เนื้อแข็งไป คิดว่าเค้าลวกนานไป เฝอจะแพงกว่าร้านแรกนิดหน่อย ประมาณ S$1+  และไม่มีซอสให้ที่โต๊ะนะ ต้องเดินไปเอาที่เคาน์เตอร์เอง หารูปเมนู Beef Combination อันเก่าไม่เจอแฮะ เอาไปแค่นี้ละกันนะ 



PHO Beef Shank $8.90



Bun: Vermicelli with Grilled Beef & Spring Roll (Peanut Souce Base)




Location:  Bedok Mall, Westgate 
Website:  http://www.phostreet.com.sg/





Monday, October 13, 2014

[Dining] เจอก๋วยเตี๋ยวเนื้อไม่ได้ - LeNu Taiwan Beef Noodle Bar


เมื่อวานไปเดินเล่นแถว Bugis เพื่อหาเคสมือถือแบบใสๆ หายากมาก มีแต่แบบฝาพับของซัมซุง ไม่ชอบง่ะ  (แพงด้วยแหล่ะ $50-80) เป็นคนซุ่มซ่ามต้องใส่เคสรอบด้าน นิรภัย ABS กันกระแทกเท่านั้น หาที่ Bugis Junction ไม่เจอ นึกขึ้นได้ มีร้านขายส่งที่เคยซื้อตอน Note 2 ออกใหม่ๆ ตอนนั้นร้านอื่นก็ไม่มีขาย แต่ร้านนั้นมี เดินข้ามถนนไป Bugis Street โลด แล้วก็เจอจริงๆ เคสใสแบบที่ต้องการ $10 เอง คือชั้นจะโชว์มือถือสวยอ่ะนะ ฮ่าๆๆๆ ใน Bugis Street มีไวไฟฟรีด้วย เริ่ดอ่ะ เพราะยกเลิกเบอร์ Unlimited 3G ที่เอาไว้ใส่ Mi-fi ไปแล้ว เหลือเบอร์สัญญาของน้องโน้ต ใช้ 4G, 4G+ ได้ 4GB ของไว ของแพง เราต้องใช้สอยอย่างประหยัด ถ้าดูหนัง ฟังเพลง จะปิด Data อยากโหลดอะไรใช้ไวไฟที่บ้าน ที่ทำงาน เอานะแกร ไงล่ะ คนที่นี่ได้ใช้ 4G+ แต่แพงโคตร จ่ายเดือนละ $62 (เกือบๆ 1,600) ใช้เน็ตด๋อยๆ เมืองไทย แค่ 7-800 แต่ unlimited นะเออ  

ได้เคสละ ว่าจะหาอะไรกินเบาๆ ... อ้าววววว ซวยละ เหลือเงินติดกระเป๋า S$5 ทำไงอ่ะ ดันลืมเอาบัตร ATM มา เพราะวันก่อนใช้แล้วเสียบไว้ในกระเป๋าอีกใบ มีแต่บัตรเครดิตมาใบเดียว ก็เลยเดินวนๆ หาร้านกิน (ร้านที่นี่ส่วนใหญ่รับบัตรเครดิต) ทีแรกว่าจะกินอะไรเบาๆ ก่อนจะไปเกาหลี เพราะนางต้องไปตะบันกินที่นั่นแน่ๆ ฮ่าๆๆ 


แต่แล้ว ก็ต้องใจอ่อนระทวย เมื่อเดินมาเจอร้านนี้ LeNu Taiwan Beef Noodle Bar โหยยยย แค่ภาพเมนูหน้าร้าน ก็ยืนตะกายป้ายน้ำลายหกแล้ว สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเอง เดินดุ่มๆ เข้าไปสั่ง  Braised Beef Tendon & Brisket Noodles with Hot & Spicy Braised Beef Soup S$12.90 (330 บ.) ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เอ็นเนื้อ เส้นแบน น้ำซุปเผ็ดจัดจ้าน .... 










แหมหล่อน อยากกินอะไรเบาๆ แต่จัดเอ็นเนื้อมันย่องเลยนะยะ ทำเอ็นเนื้อเค้าเปื่อยมาก กัดละลายในปากเลยน๊าาาา ใครจะอดใจได้   8(>//<)8  ชอบนะ น้ำซุปเผ็ดโดยไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย หายากมากร้านที่นี่ ที่จะไม่เติมอะไร ปกติเค้าก็มีให้แต่น้ำปลาแหล่ะ นานๆ จะเจอให้พริกน้ำส้ม (ปั่น) แต่ร้านนี้ ไม่ตรงปรุงเลยอ่ะ รสชาติมันใช่ สำหรับสาวสวยเผ็ดดุอย่างเรา คริๆๆๆ








เค้ามีให้เลือก 3 น้ำซุป ซุปเนื้อตุ๋นดั้งเดิม ซุปเนื้อตุ๋นใส่ผักกาดดอง ซุปเผ็ดจัดจ้าน ... มีเส้น 3 แบบ เส้นหมี่เล็ก เส้นหมี่แบน เส้น ... เรียกว่าไงดีอ่ะ Rice Noodles ... เส้นขาวๆ นุ่มๆ ดึ๋งๆ ไม่รู้แปลไงเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนเส้นเฝอที่เรียกว่า Rice Noodles เหมือนกันนะ จะขาวขุ่น กลมๆ 







ขนาดชามจัดว่าใหญ่ ทรงลึกไม่บานออก แต่ก็ธรรมดาสำหรับร้านที่นี่ ใน สคป. อาจจะดูราคาอาหารแพง แต่ปริมาณ 2 เท่าเมื่อเทียบกะไทยนะ คนที่นี่ต้องเดินเยอะ เค้ากินกันจัดหนักจ้า ... ในน้ำซุป ใส่ถั่วงอกหัวโต มีผักดองมาด้วย เคี้ยวกรุบๆ ดี ชอบมาก กินแทบยกชามซดเลยอ่ะ อาศัยว่าอายเด็กเสิร์ฟบ้างไรบ้าง แค่ถ่ายรูปในร้านมันก็มองทั้งร้านละ พูดภาษาจีนนินทาเรากันใหญ่ เหม่ๆๆๆ อย่าให้กรูฟังออกนะเมิง แต่จะได้ฟังออกมั้ย ไม่เคยคิดจะเรียนภาษาจีน ฮ่าๆๆๆ 










แล้วก็อิ่มท้องกางกลับบ้าน ก่อนนอนจัดกาวิสคอนไป 2 เม็ด ย่อยยากเกิ๊น อายุปูนนี้แล้ว ... ท่าทางความคิดจะลดน้ำหนักก่อนไปเที่ยวจะทำได้ยากซะแล้ว ภาษาเกาหลีก็ไม่กระดิก ยังแบกพุงไปกินเพิ่มที่นู่นอีกนะแกร TT



*รูปวันนี้ ถ่ายจากน้องโน้ตใหม่นะ ถ่ายชัดมาก ถ่ายในที่แสงสลัวๆ ก็ได้อยู่ แต่ชัดตื้นน้อยไปหน่อย แต่เอ๋ผการีบถ่ายด้วยแหล่ะ เด็กในร้านมองอยู่* 

Sunday, October 12, 2014

[Review] ความบ้าเห่อยังไม่จาง - Favourite Features in Samsung Note 4



ต่อจาก blog  [Review] บอกเลยว่าบ้าเห่อ - แกะกล่อง Samsung Note 4  อย่าได้คิดว่าความบ้าเห่อของเราจะหยุดแค่นั้น วันๆ เล่นแต่มือถือเยี่ยงนี้ ไม่มี Blog ต่อมาก็แปลกละ คราวนี้เอารูปชัดขึ้นมา (อีกหน่อย) มาให้ดูกัน ถ่ายจากพี่โน้ต 2 ถึงจะบ้าเห่อน้องใหม่ยังไง ก็ไม่ทิ้งพี่นะจ๊ะ อย่าเพิ่งงอนนะตะเอง เอาไว้ใช้กับเบอร์ไทยจ้า ขุ่นย่า Blackberry ได้เวลาปลดระวางแล้ว เก่าเกินบรรยาย ปุ่มก็เล็กเกิ๊น กดผิดกดถูก ฮ่าๆๆๆ *ได้ของใหม่ โวยวายของเก่า* พี่โน้ตไปปฏิบัติหน้าที่แทนขุ่นย่านะ


ด้านหน้า ด้านหลัง จะมีขอบสีเงินๆ ที่บอกเลยว่าค่อนข้างคม ความที่ซื้อเครื่องออกใหม่ ยังไม่มีเคสออกมาขาย (ที่ไม่ใช่แบบฝาพับของซัมซุง ไม่ชอบแบบฝาพับ รำคาญ) ผกาเลยต้องถือระวังมากก คอยเอานิ้วก้อยรองไว้ตลอดเวลา ซึ่งไอ้ความคมของขอบนี่แหล่ะ ที่ทำให้รู้สึกเจ็บนิ้วเวลาถือนานๆ     






อย่าไปว่า iPhone 6 เค้าเลยนะ ที่กล้องนูนออกมา น้องโน๊ต 4 เองก็กล้องนูนเหมือนกัน อ่ะนะน่าจะเพราะแข่งกันทำให้บาง แต่กล้องมันบางไม่ได้ ทีนี้พอไม่มีเคสหุ้ม เลยยิ่งต้องระวังเวลาวาง กลัวกล้องจะไปครูดกับพื้นโต๊ะ นางเอากระดาษทิชชู่รองตลอดง่ะ แหะๆ  พลาสติกฝาหลัง ทำเป็นแบบลายหนังด้านๆ ซึ่งชอบนะ ทำให้ไม่ลื่นมือดี มันด้านมากขนาดที่ปกติจะมีตรา Starhub กลมๆ ติดมาตอนแรก ติดได้ไม่ถึงวันหลุด พื้นผิวด้านจัด  \o/   ส่วนที่เสียบหูฟัง ก็จะโค้งๆ นูนๆ เหมือนกัน เพราะขาหูฟังใหญ่กว่า 


 

  



Finger Scanner 


กล้องด้านหน้า ก็ไม่ยังไม่มีแฟลชเหมือนพี่เบิ้ม HTC เหมือนเดิม ส่วนปุ่มข้างล่างมันเอาไว้สแกนลายนิ้วมือได้ด้วย เลอค่ามากกก แต่ขอบ่นหน่อย ว่าสปริงของปุ่มมันแข็งๆ บางทีกดไปแล้ว มันไม่ค่อยเด้งขึ้น หรือเด้งช้า ไม่ทันใจเจ๊ เดี๋ยวจะไป Feedback กับซัมซุง *รักแค่ไหน เราก็ไม่อวยนะ* 




*โปรดสังเกตหน้าเจ้าส้มตำ เซ็งกะปุ่มไม่ค่อยเด้งไปด้วย ฮ่าๆๆๆ* 


แต่ไอ้เจ้าตัวสแกนลายนิ้วมือเนี่ย สะดวกขึ้นเยอะนะ ไม่ต้องใส่ PIN บ่อยๆ (ตั้งให้ใส่ PIN เพื่อความปลอดภัย) มันให้เราสแกนได้ 3 แบบๆ ละ 10 ครั้ง ฉะนั้น ตะแคงนิ้วสแกนไปหลายๆ แบบเลย มันจะได้จำไว้เยอะๆ โอกาสผ่านสูงขึ้น ผกาสแกน 3 นิ้วเลย โป้งซ้าย โป้งขวา ชี้ขวา ไม่เจอลายนิ้วมือให้มันรู้ไปสิ แต่ถ้าไม่สแกนนิ้ว ก็ใส่ backup password ได้นะ อย่าไปบอกรหัสกับใครเค้าล่ะ  อ้อ การสแกนนิ้วมือ เอาไว้ใช้สำหรับ 4 ฟังก์ชั่นนะคะ (ผกาเลือกอย่างเดียวพอ) 

  • Screen lock
  • Web sign-in  
  • Verify Samsung account
  • Pay with PayPal




S Health 

ของเล่นใหม่ สำหรับคนใส่ใจสุขภาพ (แต่ไม่ใช่เรา ฮ่าๆๆ) มีฟังก์ชั่นวัดคลื่นหัวใจ คือเอานิ้วไปแตะที่ตรงข้างๆ แฟลช (ใต้กล้องหลัง) หรือถ้าใครขี้เกียจ จะมีฟังก์ชั่น Pedometer เตือนว่า ออกเดินหน่อยมั้ยจ๊ะเธอ จะขี้เกียจไปไหน และนางขี้โวยวายใช่เล่น ถ้าคุณไม่ลุกเดินไปไหน จะเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แบบว่าชั้นมาทำงานนะแก ไม่ได้มาเดินเล่นนะยะ เดินไม่ถึงเป้าหมายก็โวยวายงุ้งงิ้ง แต่ถ้าเราเดินเกินเป้า มันจะสรรเสริญเรายกใหญ่ ประหนึ่งไปแข่งขันเดินมาราธอนชิงแชมป์โลก ฮ่าๆๆๆ ขำดีเหมือนกัน 




New Menu Buttons

ถ้าใครใช้ Note 2 มาก่อน (ไม่แน่ใจ Note 3 ด้วยหรือเปล่า) คงจะเคยชินว่า ถ้ากดปุ่มกลางทิ้งไว้ จะเป็นการดูแอพทั้งหมดที่เปิดอยู่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ละ ฟังก์ชั่นนั้นย้ายไปอยู่ปุ่มซ้าย (ที่เคยไว้เปิดเมนูแอพ) แล้วถ้าจะเปิดเมนูแอพ ให้หาปุ่ม จุดจุดจุด (แนวตั้ง) อันนี้ยังไม่เคยชิน ฮ่าๆๆๆ 






วันนี้บ้าเห่อแค่นี้ก่อนนะ ไอ้เด็กปิโนข้างๆ (ปิโน = คนฟิลิปปินส์) พยายามยื่นหน้ามาเสือก ว่าเราพิมพ์อะไรยิกๆๆๆ ไอ้เด็กคนนี้เรื่องยาว วีรกรรมมันเยอะ ไว้เล่าทีหลัง